พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ในยามเศรษฐกิจย่ำแย่

อยากให้ทุกคนมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต มีแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับมรสุมชีวิตที่ในช่วงชีวิตของคนเราจะต้องได้พบกับภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆที่รุมเร้าเข้ามา
อย่างที่เค้ากล่าวกันว่า ชีวิตคนมีขึ้นมีลง ซึ่งปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดจากตัวเราเอง หรือจากภาวะแวดล้อมภายนอก จึงได้นำเรื่องราวจากผู้คนมากมาย มาให้ได้อ่านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ในการฮึดสู้กับอุปสรรค หรือปัญหาที่เกิดขึ้นมา เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ

อย่างเรื่องของ

Michael Hanna พลิกวิกฤติเป็นโอกาส 

โดนเชิญออกจากงานในวัย 47 ปี
และเส้นทางสู่เจ้าของธุรกิจขายฟูก
ที่เขาบอกว่าไม่เสียใจเลยที่ตกงาน

เรื่องราวเป็นอย่างไรติดตามได้ที่

เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมทุกครั้งคือเรื่องการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของคนที่เผชิญกับจุดตกต่ำครั้งใหญ่ของชีวิต Michael Hanna ชาวเมือง Portland USA เป็นชายวัยกลางคนผ่านประสบการณ์ทำงานกับองค์กรใหญ่ในอเมริกามามากมายทั้งผู้ รายงานข่าวและตำแหน่งสุดท้ายคือหัวหน้าทีมขายโฆษณามือทองที่คุมทีมขาย 40 ชีวิตทำกำไรให้บริษัทออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง COMCAST.com แต่แล้ววันหนึ่งในวัย 47 ปีกับตำแหน่งการงานอันมั่นคงของ Michael H. เขาถูกผู้บริหารเรียกตัวไปแจ้งขอเชิญเขาออกจากบริษัทด้วยเหตุผล เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทต้องการลดคนงาน หลักผู้บริหารแจ้งเรื่องเสร็จ เลขาฯ ก็นำกล่องเก็บของมาวางไว้เป็นการบีบเอาดื้อๆ แบบไม่มีการอุทรณ์ Michael H. เก็บข้าวของกลับบ้านแบบงงๆ และที่สำคัญ ที่บ้านยังมีภาระ การศึกษาของลูกๆสองคน ภรรยา และค่าใช้จ่ายรถ บ้าน และหนี้สินอีกมากมาย

เรื่องราวเป็นอย่างไรต่อติดตามต่อได้ที่มา

 http://www.theceoblogger.com/michael-hanna-mattress-lot-success/

ส่วนอีกเรื่องเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงว่า

ความยิ่งใหญ่ของ IKEA 

เริ่มมาจาก กล่องไม้ขีดไฟ

IKEA ศูนย์ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ที่มีสาขามากถึง 301 สาขาใน 44 ประเทศและมีพนักงาน 139,000 คน มียอดขายไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านเหรียญต่อปี

Ingvar Kamprad ผู้สถาปนาศูนย์ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ IKEA เริ่มต้นค้าขายอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก สมัยเด็กๆเขาสังเกตว่าผู้ใหญ่ในหมู่บ้านนิยมใช้ไม้ขีดไฟ เขาสืบพบว่าในกรุงสต็อกโฮล์มมีแหล่งขายส่งไม้ขีดไฟราคาถูกที่เขาสามารถซื้อ มาแบบเป็นถุงเป็นถัง (Bulk pack) และนำมาแบ่งขายปลีกเพื่อทำกำไรต่อได้ เขาจึงนำเงินเก็บไปลงทุนซื้อไม้ขีดไฟมาบรรจุปลีกแล้วขี่จักรยานขายไปตามหมู่ บ้าน เมื่อมีกำไรเขาก็ขยายฐานจากไม่ขีดไฟไปเป็น ปลา เมล็ดพืช เครื่องตกแต่งต้นคริสต์มาส และเครื่องเขียน

โดยการเริ่มธรุกิจเล็กๆ และพยายามสร้างจุดแข็งให้เหนือคู่แข่ง
มีทัศนคติว่ามองการแข่งขันเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเอง
เขามองหาแนวทางการขายใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำ
และเขาก็เป็นคนรู้จักใช้เงิน แม้ในช่วงที่ธุรกิจประสบความสำเร็จและมีเงินมากแต่เขาก็ยังนั่งรถไฟใต้ดินไป ทำงาน มีเรื่องเล่าในหมู่พนักงานโรงแรมว่า เวลา Ingvar ไปพักและดื่มน้ำในตู้ Minibar (ซึ่งมีราคาแพงมาก) ของโรงแรม เขาจะหาโอกาสไปซื้อน้ำดื่มยี่ห้อเดียวกันจากร้านสะดวกซื้อกลับมาวางแทนที่ 

อ่านเพิ่มเติ่มได้ที่
http://www.theceoblogger.com/ingvar-kamprad-lesson-learn/

อีกอันก็เป็นประโยคเด็ด ๆ ของคุณตัน
เปิดใจเรื่องเล่าช้านี้ วันที่ 12 ตุลาคม 2554

"ตราบในที่เรายังไม่เสียชีวิต
เรามีความเชื่อและมีความหวัง
สิ่งที่ต้องการมากที่สุดไม่ใช่ถุงยังชีพ
ผมว่ามากกว่าข้าว-น้ำ คือกำลังใจ"

ดังนั้นในการทำธุรกิจ เราต้องคิดก่อนว่าจะทำธุรกิจอะไร
ธุรกิจใดที่เหมาะสมกับเรา ธุรกิจใดที่ทำเงินได้ดี ธุรกิจใดที่ทำได้ง่าย
คนใดที่มองออกและตาถึงจะมองเห็นโอกาส
คนที่คิดดีคิดบวกนั้น จะมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤตเสมอ
ชีวิตคือการลงทุน ลงทุนเวลา ลงทุนแรงกาย ลงทุนในเรื่องความคิดความรู้
ลงทุนด้านการเงิน ฯลฯ จะเห็นว่าเราลงทุนตลอดเวลา
ในเรื่องของธุรกิจก็ต้องลงทุน ทั้งแรงกาย ความรู้ความสามารถ เงินทอง
ทุกๆคนย่อมต้องการแต่ความสำเร็จ ไม่ประสงค์รับความล้มเหลว
แต่คนส่วนมากมักไม่ทำในสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
แต่ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม
ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เราเห็นคนที่ประสบความสำเร็จน้อยกว่าคนที่ล้มเหลว

ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาส
คนที่มีความตั้งใจจริงและคิดบวกเท่านั้น
จึงจะมองเห็นโอกาสงามๆในภาวะที่เศรษฐกิจซบเซา
ทุกๆคนสามารถฝึกให้ตัวเองมองในแง่ดี คิดบวกได้
ทุกอย่างมันมีสองด้าน มีมืดก็มีสว่าง มีบวกก็มีลบ
มีดีก็มีไม่ดี มีกลางคนก็มีกลางวัน ดังนั้นมีวิกฤตก็ย่อมมีโอกาส
เพียงแต่ใครจะมองเห็นและตาถึงมองเห็นโอกาสนั้นๆ
มีหลายท่านที่สร้างโอกาสจากภาวะวิกฤหรือท่ามกลางวิกฤต
ใส่ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีๆลงไป ใส่ความตั้งใจจริงลงไปเต็ม100%
ทุ่มเทความรู้ความสามารถลงไปให้เต็มที่ คิดและมองหาเทคนิคและกลยุทธ์
ที่จะทำให้ของคุณรุ่งเรือง ทุกอย่างเกิดจากแนวคิด
และนำไปสู่การกระทำบ่อยๆจะทำให้คุณเกิดทักษะสูง
จนเป็นนักบริหารมืออาชีพได้ บรรดาความเชี่ยวชาญชำนาญและประสบการณ์สูงนั้น
เกิดจากการกระทำบ่อยๆจนเกิดความชำนาญและเชี่ยวชาญในที่สุด
ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถพิเศษที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นมาได้