วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เคล็ดลับทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

การทำธุรกิจต่าง ๆ ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างมากมาย
แต่ในระบบธุรกิจเครือข่ายนั้น หลักในการทำงาน ก็คือ ต้องมีการสร้างสายงานหรือเครือข่ายให้มากที่สุด
โดยปกติแล้ว คนที่เข้ามาสู่ระบบธุรกิจเครือข่ายนั้น มักเข้าใจว่า เป็นการขายสินค้าให้ได้มากที่สุด
แต่ตามความเป็นจริง การสร้างเครือข่ายไม่จำเป็นต้องขายสินค้า ให้เก่ง หรือ การพูดเก่ง
การทำงานก็คือการขยาย โดยการสร้างเครือข่ายให้มากที่สุด และรวดเร็วที่สุด

แต่วิธีการในการที่จะสร้างเครือข่ายนั้น ก็คือการชวนคน
ถ้าเราชวนคน คนทั่วไปมักจะปฏิเสธและไม่ชอบ เพราะมีความเข้าใจผิดคิดว่า ธุรกิจเครือข่ายนั้น
เป็นแชร์ลูกโซ่ และหลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดี เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย
เช่น โดนตื้อจนรำคาญ 
เคยทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ เคยโดนหลอกไปในวงจรแชร์ลูกโซ่

โดยแท้ที่จริงแล้ว ธุรกิจเครือข่าย ก็คือ ธุรกิจประเภทนึง ถ้าหากทำอย่าง"ถูกวิธี" 
ก็จะสามารถไปสู่อิสรพภาพทางการเงินได้ 

คนส่วนใหญ่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย เพราะหวังรวยทางลัด
โดยคิดว่าสมัครแล้วจะได้เงินในทันที โดยไม่ได้เข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง
ให้เข้าใจถึงวิธีการที่ถูกต้องของการทำงานธุรกิจเครือข่ายนี้ 


โดยส่วนมากในประเทศไทย หลายๆคนมักทำธุรกิจเครือข่ายแบบผิดๆ 


แต่ในประเทศที่เจริญแล้ว อย่างญี่ปุ่น กลับพบว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีบริษัทที่เป็นธุรกิจเครือข่าย
มากที่สุดในเอเชีย รองลงมาน่าจะเป็นไต้หวัน และประชาชนส่วนใหญ่ของเค้า เปิดใจยอมรับ
ธุรกิจเครือข่าย เพราะประเทศเค้า"ทำถูกวิธี" ไม่ตื้อ ไม่เซ้าซี้ และ กฏหมายเข้มงวด
ไม่มีแชร์ลูกโซ่ระบาด 


ธุรกิจเครือข่ายซึ่งความเป็นจริงนั้นธุรกิจเครือข่ายได้นำรายจ่ายจากส่วนของ
โฆษณา ค่าส่ง ค้าปลีก มาเป็นรายได้ให้กับสมาชิก เพราะธุรกิจเครือข่าย
อาศัยการกระจายสินค้า โดยสมาชิก หรือนักธุรกิจอิสระ 


ที่เรียกว่าธุรกิจเครือข่าย นั้นมันมีความแตกต่างระหว่างคำว่า "ขายตรง" กับ "ธุรกิจเครือข่าย" 


ถ้าทำอย่างถูกวิธีธุรกิจเครือข่ายมันก็คือธุรกิจที่สามารถทำเป็นอาชีพได้จริง 
และธุรกิจนี้ถ้าคิดจะทำให้ประสบความสำเร็จจริงๆ ก็ต้องเรียนรู้ให้มาก
ถ้าคิดที่จะทำธุรกิจเครือข่าย แต่ไม่เรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง คิดแค่ว่า "จะชวนคนให้เยอะๆ"
อย่างเดียวโดยที่เราไม่มีความรู้ที่แท้จริง แบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกค่ะ
ที่คุณจะไม่ประสบความสำเร็จ 


และความหมายที่แท้จริงของธุรกิจเครือข่ายนั้นคือ

ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆไป เช่น หากธุรกิจสินค้าแบบทั่วไปจะใช้ดาราในการโฆษณาสินค้าให้ ซึ่งต้องใช้เงินทุนบริษัทถึง 60% ทีเดียว แต่ธุรกิจเครือข่ายไม่ได้ใช้ดาราในการโฆษณา แต่เป็นการโฆษณาแบบปากต่อปาก ทำให้นำกำไรของบริษัท 60% มาคืนสู่ผู้ร่วมธุรกิจหรือสมาชิกนั้นเอง

ธุรกิจเครือข่าย ทุกคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายมักจะบอกว่า "บริษัทเราเปิดใหม่ ทำก่อนเป็นต้นสายก่อน รวยก่อน" ซึ่งไม่ใช่ความจริงทั้งหมด คำพูดแบบนี้คือการพูดที่โน้มน้าวคนที่ไม่รู้เรื่องธุรกิจเครือข่าย แต่ความจริงคือ ถึงคุณจะเป็นคนแรกที่สมัครในบริษัทใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว แต่ถ้าคุณไม่มีลูกข่ายหรือที่เรียกว่า "Downline" คุณก็ไม่มีวันที่จะได้เงินซักบาทหรอกครับ
เพราะฉะนั้นมันไม่สำคัญว่าคุณจะสมัครเร็วหรือช้า
แต่สำคัญที่คุณจะสร้างเครือข่ายได้เยอะแค่ไหนต่างหากล่ะ

ครับ



ธุรกิจเครือข่ายนั้นทำง่ายได้จริง  แต่ทำไมสถิติคนล้มเหลวจึงสูงถึง 97% ล่ะ

แต่ถ้าบอกว่า  มันมีวิธีการ ที่สามารถช่วยให้คุณดึงดูดผู้มุ่งหวัง และลูกค้า จำนวนมากๆ เข้ามาสู่ธุรกิจของคุณได้


ความลับคือ คุณแค่ต้องรู้อะไรบางอย่าง

ที่คนส่วนมากไม่ได้ศึกษามัน

การเรียนรู้ให้เข้าใจเสียก่อน 

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การรักษาด้วยเคมีบำบัดอาจเป็นการกระตุ้นเนื้องอก


นักวิจัยสหรัฐเผยผลวิจัยล่าสุด การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีเคมีบำบัด หรือ คีโม
อาจให้ผลตรงกันข้ามกับที่คาดหวัง หนำซ้ำยังจะเป็นการกระตุ้นให้เนื้องอกลุกลาม
และต้านทานการรักษาหลังจากนั้น


6 ส.ค.55: สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า
คณะนักวิทยาศาสตร์แห่งศูนย์วิจัยมะเร็งเฟร็ด ฮัทชินสัน ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
เผยผลวิจัยลงในวารสารการแพทย์ “เนเชอร์” เล่มล่าสุด ซึ่งพบว่า การรักษามะเร็งด้วยวิธีเคมีบำบัด
หรือที่เราเรียกกันว่า คีโม อาจไม่ได้ผลตามที่คิด เนื่องจากคีโมสามารถทำลายเซลส์ที่สมบูรณ์แข็งแรง
และทำให้เซลส์เหล่านี้หลั่งสารโปรตีน WNT1 6B ที่จะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของเนื้องอก


นายปีเตอร์ เนลสัน ผู้ร่วมเขียนรายงานผลการวิจัย กล่าวว่า การค้นพบดังกล่าว
ถือเป็นสิ่งที่ “ผิดความคาดหมายโดยสิ้นเชิง” การค้นพบเกิดขึ้นในระหว่างการทดลองเพื่อค้นหาคำตอบ
เหตุใดเซลส์มะเร็งจึงฟื้นคืนชีพได้เร็วมากในร่างกายมนุษย์ ทั้งที่พวกมันถูกฆ่าได้ง่ายมากในห้องทดลองวิจัย
และการทดลองผลกระทบจากเคมีบำบัดรูปแบบหนึ่ง ต่อเนื้อเยื่อที่รวบรวมจากกลุ่มผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
พบหลักฐานการทำลายดีเอ็นเอ ในเซลส์ที่สมบูรณ์แข็งแรงหลังการทำคีโม
และว่า เมื่อสารโปรตีน WNT1 6B ถูกหลั่งออกมา มันจะมีปฏิกิริยาต่อเซลส์เนื้องอกที่อยู่ใกล้ๆ
และทำให้เซลส์เหล่านี้เติบโต รุกราน และที่สำคัญคือ มันจะต้านทานการบำบัดรักษาโรคหลังจากนั้น


สมุนไพรที่ช่วยในการฆ่าเชื้อมะเร็งที่ได้รับการวิจัยมาแล้วเป็นเวลานาน หลาย 10 ปี
ได้ชื่อว่า สมุนไพรคาวาริ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ในการฟื้นฟูร่างกายอย่างยั่งยืน


ผลข้างเคียงของการใช้ยาพาราเซตามอล



พฤติกรรมที่คนไทยนิยมซื้อยากินเอง โดยเฉพาะกลุ่มพาราเซตามอล
 ซึ่งหากรับประทานมากๆ อาจจะมีผลข้างเคียง อาทิ เช่น เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งไต
อาการตับวายและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความชรา


ซึ่งในหลายประเทศมีการรณรงค์ไม่ให้ใช้ยาพาราเซตามอลแล้ว
ซึ่งการใช้ยาสมุนไพรคาวาริของไทยนั้นทำให้ไม่มีผลข้างเคียงต่อตับและไต
เนื่องจากผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% 

โดยสมุนไพรคาวาริ นั้นประกอบด้วยสารสกัดจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณ
เมื่อได้รับประทานแล้วจะได้รับประโยชน์ดังนี้

ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง เพราะร่างกายได้รับการกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลส์ภูมิคุ้มกันให้เพิ่มมากขึ้น 

ทำให้ต่อต้านโรคหรือสารปนเปื้อนและสารเคมี จากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และเซลส์ภูมิคุ้มกันที่ได้รับการกระตุ้นนี้ จะเพิ่มปริมาณและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาภายในร่างกายได้ 

เช่น ปัญหาโรคต่าง ๆ ที่เป็นมานาน โรคเรื้อรัง และถ้าใช้ร่วมกับยาหรือรับการรักษาจากแพทย์ร่วมด้วย 

ก็จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นอย่างเร็วขึ้นไปอีก

ทำให้ร่างกายมีความสดชื่น กระฉับกระเฉง ไม่อ่อนเพลีย และไม่เมื่อยล้า

เนื่องจากมีพลังงานสำรองเต็มเวลา

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย จะมีเนื้อเหลวและหย่อนยาน หลังจากรับประทานเครื่องดื่มสมุนไพรคาวาริแล้ว 

จะช่วยให้เนื้อที่เหลวหย่อนยานกระชับแน่นขึ้น เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น

คาวาริจะช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง มีน้ำมีนวล และทำให้ใบหน้าผ่องใส มีผิวอมชมพูเนียนใสดุจธรรมชาติ

และเครื่องดื่มสมุนไพรคาวารินี้ สามารถขจัดไขมันส่วนเกิน ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ต่อร่างกายออกไปได้ดี 

โดยจะทำให้รู้สึกว่า ร่างกายมีความเข็งแรงมากขึ้น เพราะว่าร่างกายได้ดึงเอาไขมันเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน 

จึงทำให้ร่างกายกระชับขึ้น โดยจะรู้สึกได้เมื่อรับประทานไปซักระยะหนึ่ง

และทำให้นอนหลับสบายมากกว่าเดิม สามารถนอนหลับได้ลึกขึ้น และไม่มีอาการขี้หลงขี้ลืม 

สมองและจิตใจปลอดโปร่ง

ช่วยในเรื่องระบบเจริญอาหาร และการขับถ่ายดีขึ้นเป็นลำดับ

จากผลการวิจัย พบว่า เครื่องดื่มสมุนไพรคาวาริสามารถช่วยชะลอความแก่ได้ดี 

ดังคำโบราณที่เปรียบว่า “เสมือนเป็นยาอายุวัฒนะ”

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ คาวาริ ชนิดน้ำและเม็ด

สมุนไพรสกัดได้คุณภาพมาตรฐาน จากสมุนไพรไทย มีสรรพคุณ ยับยั้งและต้านมะเร็ง เอดส์

เพิ่มภูมิคุ้มกัน ขยายหลอดเลือด ล้างไขมันในตับและในเส้นเลือด ลดคลอเรสตอรอล

เพิ่มสมรรภาพทางเพศ ช่วยลดการปวดประจำเดือน และในกรณีประจำเดือนไม่ปกติ

มีก้อนเนื้องอก และมีอาการประจำเดือนกระปริดกระปรอย สมุนไพรนี้ช่วยในการดูแลรักษา

เสริมสร้างเซลส์ใหม่และสร้างระบบเลือดลมให้ดีขึ้นได้

สนใจสั่งซื้อได้ที่ 0832628713 คุณนนท์


ประโยชน์ของแอล-อาร์จินีน


แอล-อาร์​จิ​นีน เป็น​กรด​อะ​มิ​โน​ พื้นฐาน...และ​เกี่ยวข้อง​กับ​ระบบ​เม​ตา​บอลิซึม​ภายใน​ร่างกาย​มนุษย์
โดย​เป็น​สาร​ตั้งต้น​ที่​สำคัญ​ใน​การ​สังเคราะห์​สาร​เคมี​ใน​ร่างกาย​หลาย​ประเภท
ได้แก่ โปรตีน ยูเ​รี​ย โ​พลี​อา​มี​น โ​พลี​น กลูเมต เคร​อา​ตีนและแอก​มา​ตีน

ประเด็น​น่า​สนใจ แอล-​อาร์​จิ​นีน มี​ความ​สัมพันธ์​อย่าง​ใกล้​ชิด​ต่อ​การ​สร้างสาร​ไนต​ริก​ออกไซด์
กรด​อะ​มิ​โน​ตัว​สำคัญ​อีก​ชนิด​หนึ่ง ที่​ร่างกาย​เรา สร้างขึ้น​เพื่อ​ทำ​หน้าที่​สำคัญ​หลาย​ประการ
นับ​ตั้งแต่การ​ส่ง​ผ่าน​ใน​ระบบ​ประสาท ความ​ยืดหยุ่น​ของ​หลอด​เลือด การ​ขจัด​สาร​พิษและ​ระบบ​ภูมิคุ้มกัน
เมื่อ​เป็น​เช่น​นั้น “แอล-อาร์​จิ​นีน” จึง​เป็น​เสมือน​สาร​ตั้งต้น ให้ร่างกาย​ผลิต​สาร​ไนต​ริก​ออกไซด์
เพื่อ​ให้​ระบบ​ต่างๆใน​ร่างกาย​ทำ​งาน​อย่าง​สมดุล โดยเฉพาะ​หลอด​เลือด​และ​หัวใจ
ให้​มี​ความ​คลาย​ตัว​และ​ยืดหยุ่น ทำให้​เลือด​สามารถ​ไหล​เวียน​ได้​อย่าง​สะดวก ระดับ​ความ​ดัน​โลหิต​อยู่​ใน​เกณฑ์​ปกติ
 แอล-อาร์​จิ​นีนเป็น​กรด​อะ​มิ​โน​สำคัญ ที่​ช่วย​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ให้​กับ​ผู้​ป่วย ให้​สามารถ​กลับ​มา​มี​คุณภาพ​ชีวิต​ที่​ดี​ขึ้น
การนำสารแอล-​อาร์​จิ​นีน มา​ใช้​ใน​การ​ดูแล​ผู้​ป่วย​ตั้งแต่​ปี 1991 โดยเฉพาะ​ผู้​ป่วย​โรค​เบาหวาน 
เมื่อ​ได้​รับ​การ​บำบัด​ฟื้นฟู  พบ​ว่า​ผู้​ป่วย​มี​สุขภาพ​ที่​ดี​ขึ้น  ลด​จำนวน​ผู้​ป่วยของโรค​หัวใจ​ล้มเหลว​
และ​โรค​หลอด​เลือด​ตีบ​ใน​ขั้น​รุนแรง รวม​ทั้ง​ผู้​ป่วย​ที่​ต้องตัด​อวัยวะ​ส่วน​ใด​ของ​ร่างกาย​ออก​ไป​เนื่องจาก​เบาหวาน

“กรด​อะ​มิ​โน​พื้นฐาน มี​คุณ​ประโยชน์​ต่อ​ร่างกาย​มหาศาล” และยังช่วย​ในเรื่อง​การ​ทำ​งาน​ของ​เซลล์​สมอง
ต่อต้าน​ความ​ชรา  เพิ่ม​ภูมิคุ้มกัน​ให้​กับ​ร่างกาย  ช่วย​ทำ​ความ​สะอาด​หลอด​เลือดและ​หัวใจ
รวม​ถึง​เสริม​สร้าง​กลไก​ทาง​เพศ​ให้​ทำ​งาน​ปกติ

“แอล–อาร์​จิ​นีน” ชื่อ​นี้​คน​ไทย​อาจ​ไม่​คุ้น​หู จะ​มี​ประโยชน์​มาก​น้อยแค่ไหน​กับ​ร่างกาย​ยัง​เป็น​เรื่อง​ที่​ต้อง​พิสูจน์


ซึ่งสารสกัดแอลอาร์จินิน นี้เป็นส่วนผสมสำคัญของ Gold Number 9 

ดูแลตัวเองให้หลีกพ้น 4 โรคร้าย

ดูแลตัวเองให้หลีกพ้น 4 โรคร้าย
โรคร้ายที่ว่าคือ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคอ้วน
ซึ่งทุกวันนี้ โรคร้ายนี้มักจะเป็นกันแทบทุกบ้าน 
การดูแลรักษาตัวให้ห่างไกลโรคนั้นควรเริ่มตั้งแต่ที่ บ้าน
ทำบ้านให้ปลอดควันบุหรี่ เพราะควันบุหรี่ไม่ได้ทำร้ายเฉพาะผุ้สูบ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนรอบข้างด้วย เช่น มีการพบว่าสามีสูบบุหรี่ ภรรยาเป็นมะเร็งปอด เนื่องจากได้รับสารพิษจากควันบุหรี่ที่สามีสูบ ขณะที่ผุ้สูบบุหรี่เองมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย อัมพฤกษ์ อัมพาต ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่ อาจทำให้ลูกพิการแต่กำเนิด

ทุกบ้านมีอาหารสุขภาพ คืออาหารที่ลดเกลือ เนื้อน้อย ด้อยไขมัน น้ำตาลต่ำ มาจากธรรมชาติปราศจากภัย ซึ่งถ้าหารนึกไม่ออกว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีหน้าตาอย่างไร ก็ขอยกตัวอย่างอาหารตามโรงพยาบาลที่ทำให้ผู้ป่วยรับประทาน คืออาหารรสจืดที่มีการปรุงแต่งน้อยนั่นเอง

อยู่บ้านให้ขยับกระฉับกระเฉง ฉะนั้นจึงไม่ควรนั่งนอนดูโทรทัศน์มากเกินไป เพราะมีงานวิจัยยืนยันว่าการนั่งดูโทรทัศน์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป เพิ่มโอกาสการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และเพิ่มโอกาสการเสียชีวิต ระหว่างดูโทรทัศน์จึงควรต้องลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง เช่น อาจเดินหรือย่ำเท้าอยู่หน้าโทรทัศน์ และที่สำคัญให้ยืน เดิน และออกกำลังกายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน

วัดเองที่บ้าน น.ค.ร.
น. ตัวแรกคือน้ำหนัก ไม่ควรน้ำหนักเกิน หลักการง่ายๆ ที่จะดูว่าเราน้ำหนักเกินหรือไม่ คือให้ดูว่าตอนอายุ 20 ปี น้ำหนักเท่าไหร่ แล้วเอาน้ำหนักช่วงนั้นเป็นเกณฑ์ ถ้าหากน้ำหนักปัจจุบันมากกว่านั้นก็ถือว่าน้ำหนักเกิน ซึ่งยิ่งจะส่งผลให้อวัยวะเสื่อมมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น จึงควรน้ำหนักลง นอกจากนี้การที่น้ำหนักตัวมากขึ้น จะทำให้หัวใจต้องทำงานหนักตามไปด้วย
ค. ตัวที่สองคือความดัน ถ้าวัดที่โรงพยาบาลความดันตัวบนไม่ควรเกิน 120 มิลลิเมตรปรอท โดยถ้าเกิน 140 มิลลิเมตรปรอท ถือว่าความดันสูง แต่ถ้าวัดเองที่บ้านความดันควรลดลงมา 5 มิลลิเมตรปรอท คือความดันตัวบนไม่ควรเกิน 115 มิลลิเมตรปรอท ถ้าเกิน 135 มิลลิเมตรปรอท ถือว่าเป็นความดันสูง
ร. คือรอบเอว ผู้ชายรอบเอวไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร ส่วนผู้หญิงไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร
หากเราดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเชื่อแน่ว่าไม่ว่าอายุมากขึ้นเท่าไร สุขภาพที่สมบูรณ์ก็ยังเป็นของคุณ

ที่มา : นิตยสาร HealthToday ปีที่ 11 ฉบับ 128 พฤศจิกายน 2554
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ท

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โรคต่าง ๆ ที่กำลังเป็นโรคยอดฮิต

ตอนนี้มีโรคต่าง ๆ มากมาย
ในปัจจุบันนั้น แบ่งแยกโรคต่าง ๆ ได้ตามอาการได้ดังนี้

1.โรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย
เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ความจำเสื่อม
โรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ เหน็บชา โลหิตจาง
อ่อนเพลีย ไมเกรน อัมพฤต อัมพาต
โรคกระเพาะ โรคลำไส้ วัยทอง อาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ประจำเดือนมาไม่ปกติ โรคเสื่อมสมรรถภาพ

2.โรคที่เกิดจาก การมีสารพิษตกค้างในร่างกาย
เช่น มะเร็ง ภูมิแพ้ หอบหืด ไขข้ออักเสบ โรคตับแข็ง
ไตวาย ปอดอักเสบ ทอลซิล ริดสีดวงทวาร
ไทรอยด์ รูมาติซั่ม นิ่ว
โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน กลาก เกลื้อน ลมพิษ สิว ฝ้า

3.โรคที่เกิดจาก การได้รับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา
เช่น โรคภูมิค้มกันบกพร่อง โรคภูมิแพ้ตัวเอง ไข้เลือดออก
ไขหวัดใหญ่ วัณโรค ไวรัสตับอักเสบ งูสวัด กามโรค
ไข้หวัดนก โรคซาร์ มาลาเรีย ท้องร่วง

โรคทั้งสามที่กล่าวมานั้นเป็นโรคที่ต้องใช้ระยะเวลาและเงินทองจำนวนมากในการรักษา
และเมื่อรักษาไปแล้วก็รักษาไม่หายด้วย ซึ่งในที่สุดก็ต้องเสียชีวิตลง

สมุนไพรคาวาริและคาวาริโกลด์ช่วยท่านได้ เพราะมีผลการวิจัยในหลายประเทศว่า
มีส่วนประกอบสำคัญในการบำรุงร่างกายให้ สุขภาพแข็งแรง ช่วยป้องกันและบรรเทาได้ทุกโรค
โดยเฉพาะผลงานการวิจัยผู้ป่วยโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง(HIV.)
ซึ่งมีผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงดีขึ้น
สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างคนปกติ

อีกทั้งสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯ
ได้เผยแพร่สรรพคุณของสมุนไพรคาวตองจนเป็นที่ยอมรับ
และเป็นที่ต้องการของผู้ที่รักสุขภาพ
อยากมีร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส และหายป่วยจากโรคต่างๆ
ทำให้เกิดกระแสการบริโภคคาวตองขึ้นอย่างรวดเร็ว
จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นสมุนไพรมหัศจรรย์แห่งประเทศไทยอย่างแท้จริง

ผักคาวตอง หรือพลูคาว ต้านมะเร็ง

ผักสมุนไพรที่มีสารต่อต้านมะเร็งนี้

มีชื่อว่า " คาวตอง" (Houttuyniardata Thund) เป็นพืชสมุนไพรที่มีอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เป็นพืชตระกูลเดียวกับพลู แต่มีลักษณะแตกต่างกันที่ใต้ใบจะมีสีแดงตั้งแต่อ่อน ๆ ไปจนถึงแดงเข้ม
เมื่อนำมาใส่มือขยี้เบาเบา จะมีกลิ่นเหมือน กลิ่นคาวปลาออกมารุนแรงมาก

ประโยชน์ของคาวตองหรือพลูคาว ที่เป็นส่วนผสมในสมุนไพรสกัดเข้มข้น คาวาริ และ คาวาริโกลด์นั้นใช้ในการบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
• เบาหวาน
• วิงเวียนศีรษะ โรคลม ช่วยบำรุงเลือด
• โรคไมเกรน ปวดศรีษะ
• ความดันโลหิตสูง, ต่ำ
• เส้นโลหิตตีบ, ตัน
• โรคกระเพาะ, ลำไส้ไม่ปกติ, ระบบขับถ่ายมีปัญหา
• โรคเก๊าต์ ปวดตามกระดูกตามข้อต่าง ๆ
• ริดสีดวงทวาร ประจำเดือนไม่ปกติ
• อาการวัยทองทั้งหญิงทั้งชาย
• โรคภูมิแพ้, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง



เมื่อนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในสมุนไพรคาวาริ และคาวาริโกลด์ และได้ทดลองกับผู้ป้วย
โรคมะเร็ง 5 ชนิด มาเป็นเวลานาน แล้วพบว่า
1. มะเร็งปอด
2. มะเร็งต่อมไทรอยด์
3. มะเร็งปากมดลูก
4. เนื้องอกบริเวณสมอง
5. เนื้องอก Soft Tissuesarcoma


หลังจากที่ใช้บำรุงร่างกายควบคู่กับการรักษาจากแพทย์โดยการฉายรังสีและการรักษาทางคีโม
ผลการวิจัยปรากฏว่า
สามารถทำให้ผู้ป่วยมะเร็งหายจากโรคร้ายนี้ได้รวดเร็วกว่าการรักษา แบบปกติ

และจากการทำวิจัยนี้ ได้พบว่าสีแดงใต้ใบของคาวตองเป็นสารเฮลตีแบคทีเรีย
ซึ่งมีจุลินทรีย์ และแลคโตบาซิลัสสายพันธุ์หนึ่ง ที่ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ ให้ทำงานดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและต้านทานเนื้องอก (Anti - Tumor) พร้อม ๆ กับช่วยขับพิษที่เป็นสารก่อมะเร็งออกจากร่างกาย

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คาวาริ และคาวาริโกลด์ นั้น สามารถยับยั้งและต้านทานมะเร็งได้
เป็นอย่างดี

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

ขมิ้นชันช่วยรักษาอาการอักเสบหัวใจให้ดีขึ้น

สารเคอร์คูมินช่วยให้การอักเสบที่หัวใจดีขึ้นในหนูที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
การศึกษาในหนูแรทที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจ
ด้วยการฉีด myosin 0.1 มล. เข้าที่รองอุ้งเท้า (footpad) ของหนู จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์
แบ่งหนูออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่ได้รับสารเคอร์คูมินจากขมิ้นชัน ขนาด 50 มก./กก./วัน และกลุ่มที่ 2 ได้รับสาร 1% gum Arabic ขนาดเท่ากัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์
ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มที่ได้รับสารเคอร์คูมิน สามารถลดอัตราส่วนระหว่างน้ำหนักหัวใจต่อน้ำหนักตัว
ลดจำนวนเซลล์ และพื้นที่ที่ทำให้เกิดการอักเสบ รวมทั้งลดระดับของโปรตีน (interleukin-1-beta, tumor necrosis factor-alpha, nuclear factor kappa Bp65 และ GATA-4) ที่ทำให้เกิดการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับ 1% gum Arabic

จากการศึกษาในครั้งนี้สรุปได้ว่า สารเคอร์คูมินจากขมิ้นชันมีฤทธิ์ที่ป้องกันการอักเสบหัวใจในหนู ที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจ โดยมีผลลดระดับโปรตีน(interleukin-1-beta, tumor necrosis factor-alpha, nuclear factor kappa Bp65 และ GATA-4) ที่ทำให้เกิดการอักเสบได้

ข้อมูลจาก 
หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถนนศรีอยุธยา พญาไท กทม. 10400 Tel. 0-2644-8677-91 ต่อ 5305, 5316

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



 รศ.ดร.สมชาย ปิ่นละออ อาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา ในฐานะผู้วิจัยจากนักวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ซึ่งนำ "เคอร์คูมิน" สารสกัดบริสุทธิ์จากขมิ้นชัน มาทำการศึกษาวิจัย เรื่อง "ผลของเคอร์คูมินต่อการสร้างหลอดเลือดในโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่สัมพันธ์กับโรคพยาธิใบไม้ตับในสัตว์ทดลอง" ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี คณะแพทยศาสตร์ มข.
 "เราพบว่าหนูทดลองที่กินอาหารผสมเคอร์คูมิน สามารถชะลอการเกิดมะเร็ง  จำนวนหนูตายลดลง และขนาดของก้อนมะเร็งก็ลดลงได้ ขณะเดียวกัน ผลจากหลอดหลองพบว่า เคอร์คูมินมีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีเพาะเลี้ยงจากมนุษย์ได้ด้วย" รศ.ดร.สมชาย กล่าว
     ทั้งนี้ ในกระบวนการทดลองยังพบว่า สารเคอร์คูมินในขมิ้นชัน มีคุณสมบัติไม่ละลายในน้ำ ดังนั้นการดูดซึมจึงไม่ดีพอ รวมทั้งไม่สามารถคงตัวอยู่ได้นานในกระแสเลือด รศ.ดร.สมชาย จึงได้ร่วมมือกับนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  พัฒนาให้เป็น "นาโนเคอร์คูมิน" เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งอยู่ในช่วงของการศึกษาวิจัย หากได้ผลการทดลองที่ดีในอนาคตจะพัฒนานำมาใช้ในมนุษย์ต่อไป
     อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักวิจัยจะค้นพบสารเคอร์คูมิน ที่ช่วยยับยั้งโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ แต่สิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้นั้น คือการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเอง ไม่รับประทานอาหารแบบสุกๆ ดิบ เพื่อให้ห่างไกลจากโรคพยาธิใบไม้ตับ...ต้นต่อที่จะเสี่ยงเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งท่อน้ำดี นั้นเอง

ข้อมูลจาก 
http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/39094

รายงานการวิจัยสารสกัดกระชายดำ

สารสกัดจากกระชายดำปกป้องหัวใจ
การศึกษาผลของสารสกัดจากกระชายดำ
ที่สกัดด้วยเอทานอลต่อการทำงานของหลอดเลือดแดงใหญ่และหัวใจหนูแรท
ที่แยกจากตัวสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดจากกระชายดำ ขนาด 10-6-10-3 มคก./มล.
ทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่ขยายตัว โดยการคลายตัวของหลอดเลือดเปลี่ยนแปลงตามความเข้มข้นของสารสกัดที่เพิ่มขึ้น การศึกษากลไกของสารสกัดจากกระชายดำต่อการขยายตัวของหลอดเลือดแดง พบว่า สารสกัดจากกระชายดำออกฤทธิ์ต่อเซลล์เอนโดทีเลียม (endothelium) โดยกระตุ้นการทำงานของ guanylate cyclase และ nitric oxide syntase (NOS) แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ cyclooxygenase (COX) ซึ่งเอนไซม์ทั้ง 3 ชนิดนี้มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด
สารสกัดจากกระชายดำยังออกฤทธิ์ต่อเซลล์กล้ามเนื่อเรียบโดยตรง
โดยยับยั้งการไหลเข้าของแคลเซียมไอออนเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อเรียบ
ซึ่งส่งผลให้หลอดเหลือดขยายตัวตามมา
นอกจากนี้สารสกัดจากกระชายดำยังลดอนุมูลอิสระอีกด้วย
ส่วนการศึกษาในหัวใจของหนูแรทที่แยกจากตัวสัตว์ทดลองให้มีการขาดเลือดหรือสารละลายไปเลี้ยง โดยทำให้หัวใจขาดสารละลาย Kerbs-Henseleit ไปเลี้ยง 20 นาที แล้วให้สารละลายกลับไปเลี้ยงหัวใจ (reperfusion) 30 นาที พบว่าความดันไดแอสโตลิกสุดท้ายของหัวใจห้องล่างซ้าย (LVEDP)
ของหัวใจที่มีการขาดเลือด มีค่าเพิ่มขึ้น แสดงถึง preload หรือปริมาณเลือดที่คั่งค้างอยู่ในหัวใจห้องล่างซ้ายเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงความดันต่อเวลาของหัวใจห้องล่างซ้าย (dP/dt) มีค่าลดลง แสดงถึงแรงในการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายลดลง ขณะที่ในหัวใจของหนูแรทที่มีการขาดเลือดและได้รับสารสกัดจากกระชายดำ ขนาด 100 ไมโครกรัม/มล. มีการทำงานดีขึ้น โดยมีค่า LVEDP ลดลง และค่า dP/dt เพิ่มขึ้น สรุปได้ว่า สารสกัดจากกระชายดำมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ขยายหลอดเลือด และทำให้การทำงานของหัวใจหนูแรทดีขึ้น

ข้อมูลจาก 
หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถนนศรีอยุธยา พญาไท กทม. 10400 Tel. 0-2644-8677-91 ต่อ 5305, 5316

ซึ่งสารสกัดกระชายดำเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มสมุนไพรคาวาริ
และอาหารเสริมสมรรถภาพท่านชาย Gold Number 9

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

การรับประทานพิซซ่าเป็นประจำสามารถป้องกันมะเร็งได้


ดร.ซิลวาโน กัลลัส และคณะวิจัยจากสถาบันวิจัยเภสัชกรรมมาริโอ เนกรี ในมิลาน ประเทศอิตาลี อ้างว่า การรับประทานพิซซ่าเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในหลอดอาหารลงได้ 59 เปอร์เซ็นต์ ลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งในลำไส้ได้ 26 เปอร์เซ็นต์ และลดความเสี่ยงมะเร็งในปากได้ 34 เปอร์เซ็นต์
คณะวิจัยเชื่อว่าส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้พิซซ่าป้องกันมะเร็งได้ก็คือไลโคฟิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผักและผลไม้มีสีส้มหรือแดง ทั้งยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งพบมากในมะเขือเทศและช่วยป้องกันมะเร็งในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ คณะวิจัยได้สัมภาษณ์ผู้ป่วย 3,300 คนที่เริ่มมีอาการมะเร็งในปาก มะเร็งในหลอดอาหาร มะเร็งในลำคอ หรือมะเร็งในลำไส้ เกี่ยวกับการรับประทานอาหารในแต่ละวัน และความถี่ในการรับประทานพิซซ่า โดยในขณะเดียวกันก็สัมภาษณ์ผู้ที่ไม่มีอาการของมะเร็ง 5,000 คนด้วย และพบว่า ผู้ที่รับประทานพิซซ่าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งจะมีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ไม่รับประทานเลย
ดร. กัลลัส ผู้นำการวิจัย กล่าวว่า คณะวิจัยของเขาทราบดีว่าซอสมะเขือเทศสามารถป้องกันการเกิดเนื้อร้ายได้ และถึงแม้ผลการศึกษาของเราจะชี้ว่าการรับประทานพิซซ่าเป็นประจำสามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่เราก็ไม่ได้ระบุหรือคาดหวังให้ทุกคนบริโภคแต่พิซซ่า เพราะอาหารอย่างอื่นก็สามารถป้องกันมะเร็งได้เช่นกัน
นอกจากนี้ คาร์โล ลา เวชชีอา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดในมิลาน
ก็กล่าวว่า ผู้ที่ชอบบริโภคพิซซ่าไม่ควรรีบตื่นเต้นดีใจไปกับผลการศึกษา
และหันมารับประทานแต่พิซซ่าเนื่องจากในตอนนี้ยังไม่มีสิ่งใดที่จะยืนยันว่าผลการศึกษานี้เป็นจริง

และอันที่จริงแล้วอาหารที่ชาวอิตาลีรับประทานส่วนใหญ่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก
ผักและผลไม้ต่างๆ และยังเป็นอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ไม่ใช่อาหารแช่แข็ง หรืออาหารขยะ ยิ่งไปกว่านั้น พิซซ่าของชาวอิตาลีก็เป็นพิซซ่าที่ทำกันในครัวเรือน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีประโยชน์กว่าพิซซ่าตามร้านอาหารฟาสต์ฟูดต่างๆ 

ประกาศจากองค์การอนามัยโลก


ประกาศจากองค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง 
เกี่ยวกับโรคเรื้อรัง อย่างเช่น มะเร็ง โรคปอด โรคหัวใจ และเบาหวาน
ว่าปัจจุบันมีสัดส่วนจำนวนของผู้ป่วยเข้าขั้นเป็นโรคระบาดแล้ว
และทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตมากกว่าโรคอื่นๆ รวมกันเสียอีก
ซึ่งในปี 2008 โรคที่ได้กล่าวมา ทำให้คน 57 ล้านต้องเสียชีวิต
ในจำนวนนี้ 2.8 ล้านคนตายเพราะโรคอ้วน
2.5 ล้านคน ตายเพราะดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
และอีกร้อยละ 80 เกิดขึ้นในประเทศที่ประชากรมีรายได้ต่ำถึงปานกลางอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังชี้ถึงสิ่งที่สมควรทำสิบประการในการรักษาสุขภาพ
ได้แก่ อาหารที่รับประทานต้องมีพลังงานเพียงพอ และมีสารอาหารเพียงพอ ปริมาณพลังงานที่ได้รับไม่ควรเกินค่าที่กำหนด 
และรับประทานอาหารที่หลากหลายให้ครบห้าหมู่โดยหลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัว [Saturated fat],Tranfatty acid
น้ำตาล  
ลดเกลือในอาหาร และสุรา 

รวมถึงการไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และช่วยกันแบนโฆษณาบุหรี่ และในผู้ที่สูงอายุมากกว่า 50 ปีควรจะได้รับวิตามิน B12 เสริม หญิงตั้งครรภ์หรือวางแผนตั้งครรภ์ควรจะเสริมอาหารที่มีธาตุเหล็ก และอาหารที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก 
หญิงตั้งครรภ์หรือวางแผนตั้งครรภ์ควรจะเสริมอาหารที่มีกรดโฟลิก ผู้สูงอายุที่มีผิวคล้ำหรือไม่ถูกแดดควรจะได้วิตามินดีเสริม 
ส่วนในกลุ่มคนอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินไป มีคำแนะนำดังนี้

การควบคุมน้ำหนักจะต้องรับประทานอาหารให้พลังงานที่ได้รับและใช้ไปเกิดความสมดุล 
การลดน้ำหนักจะต้องค่อยลดพลังงานที่ได้รับจากอาหารโดยที่ไม่ขาดสารอาหาร และเพิ่มการออกกำลังกาย 
สำหรับเด็กที่มีน้ำหนักเกินจะต้องปรึกษาแพทย์ดูแล ก่อนการจำกัดอาหาร 
สำหรับคนท้องต้องควบคุมน้ำหนักอย่าให้เกิน 
สำหรับคนทั่วไปที่มีโรคจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการควบคุมอาหาร 
การจัดการเรื่องน้ำหนัก

การออกกำลังกาย 
ส่งเสริมให้มีกิจกรรมให้มาก อย่านั่งๆนอนๆจะทำให้สุขภาพกาย สุขภาพใจ และการควบคุมน้ำหนักดีขึ้น

สำหรับผู้ใหญ่ ส่งเสริมให้มีกิจกรรมที่ใช้พลังงานปานกลาง มากกว่าปกติวันละ 30 นาทีทุกวันไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือที่บ้าน
เด็กและวัยรุ่นให้ออกกำลังกายวันละ 60 นาทีทุกวัน 
ในคนท้องที่ไม่มีข้อห้ามในการออกกำลังกายให้ออกกำลังปานกลางวันละ 30นาทีทุกวัน
แต่ต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังที่จะเกิดอันตรายต่อการตั้งครรภ์ 

ผู้สูงอายุต้องมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดอัตราการเสื่อมของอวัยวะ ต่าง ๆ ภายในร่างกาย
คำแนะนำในเรื่องชนิดของอาหาร 
รับประทานผักและผลไม้ให้มากโดยรับประทานน้ำผลไม้วันละ 2 แก้ว ผักวันละ 2 ถ้วย 
ให้มีการรับประทานผักและผลไม้ที่หลากหลายสับเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา 
ให้รับประทานธัญพืชวันละกำมือ เช่นถั่วต่าง เม็ดทานตะวัน เม็ดแตงโม 
ให้รับประทานนมพร่องมันเนยหรือผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนยวันละ 3 ถ้วย 
คำแนะนำอาหารสำหรับเด็ก
เด็กและวัยรุ่นต้องรับประทานธัญพืชบ่อยๆ
เด็กอายุ 2-8ขวบควรจะดื่มนมพร่องมันเนยวันละ 2 แก้ว
เด็กมากกว่า 9 ขวบควรดื่ม 3 แก้ว

กลุ่มอาหาร

เลือกรับประทานผักและผลไม้อย่างเพียงพอโดยพลังงานที่ได้รับต้องไม่เกินเกณฑ์
ตัวอย่างคนที่ได้รับพลังงาน 2000 กิโลแคลรอรี
จะรับผลไม้ได้ไม่เกิน ผัก 21/2ถ้วยหรือนำผลไม้ไม่เกิน 2 ถ้วย 

ให้เลือกผักและผลไม้ทั้ง 5 กลุ่มสับไปมา 
ให้รับประทานส่วนประกอบของธัญพืช หรือเมล็ดธัญพืช เช่น ข้าว อย่างน้อยวันละ 3 ส่วน 
ดื่มนมพร่องมันเนยวันละ 3 ถ้วย 
กลุ่มผักและผลไม้

ผลและผลไม้เป็นแหล่งให้สารอาหารแก่ร่างกายเป็นจำนวนมากตามตารางข้างล่าง 
การรับประทานผักและผลไม้จะทำให้ร่างกายได้รับใยอาหารอย่างเพียงพอ 
ผลและผลไม้แต่ละชนิดจะให้คุณค่าทางอาหารแตกต่างกันไป
ดังนั้นต้องสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละอาทิตย์ แบ่งผักออกเป็น 5 ชนิด
และปริมาณที่ควรจะรับประทานในแต่ละสัปดาห์ 

ผักใบเขียว 3ถ้วยต่อสัปดาห์ 
ผักใบเหลือง 2 ถ้วยต่อสัปดาห์ 
ถั่ว 3 ถั่วต่อสัปดาห์ 
ผักพวกให้แป้ง(ผักพวกหัว) 3 ถ้วยต่อสัปดาห์ 
ผักอื่นๆ 6 1/2 ถ้วยต่อสัปดาห์ 
ถ้าปฏิบัติได้ก็จะช่วยป้องกันโรคและรักษาชีวิตให้ห่างไกลจากโรคได้

ผลการวิจัยสารสกัดกระชายดำกับการเสริมสมรรถภาพท่านชาย

ผลิตภัณฑ์ Gold Number 9
มีส่วนผสมของสารสกัดจากกระชายดำ
ซึ่งกระชายดำนั้นได้มีผลการวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ ดังนี้
จากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิต ภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

"การทดสอบสารกัดกระชายดำ กับสมรรถภาพทางเพศ โดยใช้หนูตัวผู้ที่เป็นโมเดลในการทดสอบ
โดยให้กินสารสกัดกระชายดำจากนั้นนำมาไว้กับหนูตัวเมียปรากฏว่าหนูตัวผู้ขึ้นขี่หนูตัวเมียมากขึ้น
จากการทดสอบนี้พบว่า การไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศของหนูเพิ่มมากขึ้น มีอิทธิพลในเรื่องความต้องการทางเพศ"

"จากนั้นจึงเพิ่มระดับมาทดสอบกับผู้สูงอายุ โดยมีขั้นตอนตั้งแต่การสร้างบรรยากาศให้ผู้ทดสอบ
และการวัดขนาดอวัยวะเพศ และกรอกแบบ สอบถาม ถือว่าได้ผลเป็นอย่างดี

และสารสกัดจาก  L-Arginine “ไวอะกร้าธรรมชาติ” คือ “แอล-อาจินีน(L-arginine)” ที่ช่วยขยายหลอดเลือดตามอวัยวะให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ที่สามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศของท่านชายที่หย่อนสมรรถภาพ
ทางเพศชายโดยการรักษาหลอดเลือด และมีความสามารถในการกันเลือดแข็งตัว
ที่สามารถเกาะกันเป็นก้อนแข็ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง




โรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย

สาเหตุของการเสียชีวิตของคนในปัจจุบันนั้น มีปัจจัยมากมาย ทั้งจากอุบัติเหตุและจากโรคร้ายต่าง ๆ
โรคที่คนส่วนมากมักเป็นอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น
โรคมะเร็งหากเป็นแล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะรายที่พบในระยะลุกลาม
ในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ติดต่อกันมา 5 ปี
มีผู้เสียชีวิตประมาณปีละ 50,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน
และพบผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 70,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โรคมะเร็งที่พบมากที่สุด 6 อันดับแรกในปี 2547
ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งในช่องปาก
โดย
มะเร็งที่ผู้ชายเป็นกันมากอันดับ 1 ได้แก่ มะเร็งตับ
รองลงมาคือ มะเร็งปอดและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ส่วน
มะเร็งที่พบในผู้หญิงตามลำดับคือมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับ 

โรคอันดับ 2
ที่พบบ่อย เกิดจากการดื่ม แอลกอฮอล์ เป็นบ่อเกิดให้เกิดโรคโรคตับแข็ง มะเร็งตับ ตับอ่อนอักเสบ โรคกระเพาะและกระเพาะรั่ว ภาวะเลือดออกจากทางเดินอาหาร เป็นต้น
ซึ่งโรคเหล่านี้มักเป็นเรื้อรังและทำให้ผู้เจ็บป่วยทุกข์ทรมาน
และยังก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้อีก เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (เส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบ)

โรคอันดับ 3 คืออา
การป่วยทางจิต 1 ใน 3 เกิดมาจากการติดเหล้า
และพบว่าในกลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ 90% เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือใช้แอลกอฮอล์
หรือทั้งสองอย่างร่วมกัน โดยผู้ป่วยทางจิตจะมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จสูงกว่าผู้ป่วยทางกายประมาณ 3 เท่าตัว
โดยเฉพาะคนติดเหล้ามากๆ จะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน เห็นภาพหลอน หูแว่ว หลงผิด หวาดระแวง และคลุ้มคลั่ง


โรคอับอับ 4
ได้แก่ โรคที่เกิดจาก โรคระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ และเชื้อโรคในอากาศ ได้แก่


โรคปอดอักเสบ วัณโรค โรคระบบทางเดินหายใจ เป็นกลุ่มโรคเดียวกัน
แต่ที่ต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือวัณโรค ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า มายโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลสิส (Mycobacterium tuberculosis) ตอนนี้กำลังเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มจะรุนแรงสูงขึ้น
และจากรายงานขององค์การอนามัยโลกล่าสุดในปี 2549
ระบุว่าพบประชากรโลก 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคนติดเชื้อวัณโรค
และมีผู้ป่วย 15 ล้านคน สำหรับคนไทยคาดว่าราว 20 ล้านคนมีเชื้อวัณโรคในตัว
พร้อมกำเริบหากสุขภาพทรุดโทรมหรือร่างกายอ่อนแอ ก็จะำกำเริบขึ้นมาได้
สาเหตุที่ทำให้ร่ายกายอ่อนแอก็ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าจัด หรือติดเชื้อเอดส์
ผู้ติดเชื้อวัณโรคเหล่านี้อาจป่วยได้ถึงปีละ 1 แสนคน 
ประเทศไทยมีปัญหาวัณโรคอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลกและถือว่าเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับ 6 รองจากมะเร็ง
โรคหัวใจ อุบัติเหตุ เอดส์ ไข้เลือดออก
                     ในปี 2549 ตรวจพบผู้ป่วยวัณโรค 58,639 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 70 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ที่ตรวจพบเชื้อในเสมหะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อจากการไอจามติดต่อสู่คนรอบข้างได้ ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-44 ปี
โรคร้ายที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตนั้น มีความสัมพันธ์กับโรคเรื้อรังที่คนไทยประสบ
โรคเรื้อรังเป็นโรคที่รัฐบาลเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก และก่อให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาอีกมากมาย
อย่างความดันสูง การรักษาก็ต้องกินยาตลอด โรคเบาหวาน
ซึ่งในบางคนที่ไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่เคยสังเกต ไม่ตรวจโรคเลย
แล้วเมื่อมีอาการกำเริบ ก็จะพบว่าเป็นอาการของโรคที่เรื้อรังแล้ว ก็อาจจะทำให้ไตอักเสบ หรือเกิดอาการไตวายได้

ทางที่ดีก่อนการเกิดโรคต่าง ๆ ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกาย ทานอาหารครบ 5 หมู่
เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ควรจะป้องกันไว้ก่อนจะดีที่สุด หรือมีอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการรักษาสุขภาพ
คือการรับประทานอาหารเสริม หรือสมุนไพรเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานและเสริมสร้างเซลส์ใหม่

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Gold Number 9 (โกลด์ นัมเบอร์ 9)

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
(แอล-อาร์จินีน,สารสกัดจากหอยนางรม)
ผลิตภณฑ์เพื่อการบำรุง และฟื้นฟูสุขภาพคุณผู้ชาย
Gold Number 9 (โกลด์ นัมเบอร์ 9)
ส่วนประกอบที่สำคัญ

L-Arginine (แอล-อาร์จินีน)
กรดอะมิโนที่สำคัญของร่างกาย
ช่วยกระตุ้นการควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนที่มีผลต่อความสูง
ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
ช่วยให้มีพลังงานตลอดวัน สดชื่น แข็งแรง
ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในชาย
เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและจำนวนอสุจิ

Oyster extract สารสกัดจากหอยนางรม
ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย
ทำให้มีสมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
ป้องกันต่อมลูกหมากอักเสบ
ให้พลังงานกับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้การทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดทำงานได้เป็นปกติ
Ginseng extract สารสกัดจากโสม
ลดอาการอ่อนเพลีย และช่วยให้ร่างกายมีกำลังมากขึ้น
ช่วยรักษาอาการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมองและอวัยวะเพศ
Vitamin E
ช่วยในการเผาผลาญ
ช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด
ช่วยขยายเส้นเลือด
ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดการจับตัวเป็นลิ่มเลือด
ลดอัตราการเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด สมอง และหัวใจ บำรุงตับ
ช่วยในระบบสืบพันธุ์ เซลส์ และกล้ามเนื้อ ให้ทำงานได้ตามปกติ
ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น
ช่วยลดอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากโรคต่าง ๆ ในร่างกาย

กระชายดำ
เพิ่มฮอร์โมนและบำรุงกำลังทางเพศ
ลดอาการปวดเมื่อย เมื่อยล้า ปวดข้อ ปวดหลัง จากการทำงานหนัก
วิธีรับประทาน
วันละ 1 เม็ด
ขนาดบรรจุ 1 กล่อง 30 เม็ด

ราคา 4000 บาท  ลดพิเศษ เหลือ เพียง 2500 บาท
ทะเบียน อย.เลขที่ 12-1-09448-1-0302
โทร.083-2628713 คุณนนท์